คลิปวีดีโอจากกล้องหน้ารถของเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เข้าไปช่วยเหลือเหตุในวันดังกล่าว จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นเพื่อนของคนที่ขับรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 กว่าคน แต่มีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีดำ กำลังพูดจาโวยวาย และจะเห็นว่าลูกสาวของคนขับแท็กซี่นั้น ยืนบังตัวพ่อไว้ เพราะกลัวพ่อจะโดนทำร้าย
แต่ผู้ชายเสื้อสีดำก็ยังเดินเข้าหาและต่อยไปที่พ่อลูก เดินทางไปพูดคุยกับอาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในจุดเกิดเหตุ บอกว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ทางมูลนิธิก็รีบออกไปยังจุดเกิดเหตุทันที และเมื่อไปถึงก็ได้รีบเข้าไปดูคนเจ็บก่อน คือคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งจากการสังเหตุดูแล้วอยู่ในอาการมึนเมา ไม่น่าที่จะขับรถได้ ซึ่งตอนนั้นเขาบาดเจ็บไม่สาหัส มีบาดแผลที่จมูก เลือดกำเดาไหล และมีแผลถลอกตามลำตัว
โดยขณะที่เช็คอาการคนเจ็บ ทางเพื่อนๆ ของกลุ่มที่ขับรถจักรยานยนต์ก็ยังปกติดีอยู่ แต่เมื่อรถกู้ชีพนำคนเจ็บออกไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ทางฝั่งรถจักรยายนต์ก็เข้ามาหาเรื่องฝั่งแท็กซี่พ่อลูกทันที อาสามูลนิธิก็พยายามที่จะกันไม่ให้เกิดเรื่อง แต่ฝั่งนั้นก็หาเรื่องอาสาด้วย โดยกล่าวหาว่าจะออกตัวแทน พวกตนก็ไม่อยากมีเรื่อง ก็ทำได้แต่พยายามกันไว้ เมื่อตำรวจจราจรมา 1 นาย ตนก็สบายใจว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องปล่อยให้ฝั่งรถจักรยานยนต์อาละวาด และทุบรถ แม้กระทั่งรถแท็กซี่ขับออกไปแล้ว ฝั่งรถจักรยานยนต์ก็ยังขับรถกรูตามกันไปอีก
ทางอาสาทุกคนเสียใจที่ไม่สามารถป้องกันเหตุได้ ทำให้น้องผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนยืนยันว่าแท็กซี่ไม่ได้หนี โทรเรียกประกันแล้ว และก็พูดจากับคู่กรณีดีๆ พร้อมทั้งกล่าวคำ “ขอโทษ” ด้วย
คุณวิจิตรา พยายามที่จะติดต่อไปยังฝั่งกลุ่มรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้พูดคุยกับผู้ชายเสื้อดำที่อยู่ในคลิปวีดีโอ ผ่านทางแชทเฟซบุ๊กส่วนตัว บอกว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ เพราะกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ก็เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุมาเล็กน้อยว่า วันดังกล่าว คือ 17 ธันวาคม พวกตนและเพื่อนไปกินเลี้ยงงานรับปริญญารุ่นพี่ อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร เพื่อนได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาพร้อมกัน 2 คน ก็มาเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงสอบถามที่มาที่ไป ซึ่งเพื่อนก็เล่าว่าอยู่ดีๆ รถแท็กซี่ก็เบรคกะทันหัน ทำให้เบรครถไม่ทัน จึงชนท้ายเข้าอย่างจัง
นอกจากนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ก็พบว่าจุดที่เกิดอุบัติเหตุ อยู่บริเวณพุทธมณฑลสาย 1 หน้าเต้นท์รถแห่งหนึ่ง เป็นจุดที่แท็กซี่บอกว่าขับรถชิดซ้าย เพื่อจะไปกลับรถไปรับลูกสาวฝั่งตรงข้ามร้านอาหาร ทีมข่าวตรวจสอบแล้วพบว่าที่เต้นท์รถแห่งนี้มีกล้องวงจรปิดหลายตัวที่น่าจะบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากที่เต้นท์รถมีเพียงคนเดียวที่เปิดดูกล้องได้ จะกลับมาจากต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 60)