ตูน บอดี้สแลม เปิดใจหลังโครงการก้าวคนละก้าวประสบความสำเร็จ บอกไม่กล้าคิดว่าจะมีอะไรแบบนี้เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ตูน บอดี้สแลม วิ่งในโครงการก้าวคนละก้าวถึงเป้าหมายเรียบร้อยเเล้ว โดยบริเวณปลายทางที่หน้าด่านพรมแดน อ.แม่สาย ทางอ.แม่สาย มีการจัดเวทีรองรับ โดยยอดเงินบริจาคล่าสุดกว่า 1.1 พันล้านบาท
ตูน เปิดใจด้วยรอยยิ้มว่า ตอน 700 กม. เเรกมันเหมือนจะไปต่อยาก ตอนประจวบคีรีขันธ์ เจ็บหนักที่ขา เป็นวันเดียวที่หยุดวิ่งกลางคัน ไม่ไหว ตอนนั้นรู้สึกว่าเราจะไปต่อจนครบกว่า 2,000 กว่ากิโลเมตรตได้ไหม
"มันเจ็บข้างเดียว เเละก็เจ็บสองข้าง เราคิดว่ายืนระยะต่อไปจะเป็นแบบไหน เเต่สุดท้ายได้ทีมกายภาพช่วย จนสุดท้ายกลับมา"
หลังจากนั้นไม่รู้เป็นเพราะอะไร ไม่บาดเจ็บอีกเลย ก็รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่เราอาจมองไม่เห็นหรือเเรงที่เรามองไม่เห็นส่งมาให้เราปฏิบัติภาระกิจครั้งนี้สำเร็จ
ตูนบอกต่อว่า ในช่วงท้ายๆ ของการวิ่งมันเป็นภาพที่เกินจริงมาก ไม่กล้าที่จะคิดว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เราไม่ใช่นักกีฬาอาชีพเป็นแค่นักร้องที่ชอบการวิ่ง เเต่วันหนึ่งเรากลับมีความฝันที่อยากทำการวิ่งครั้งนี้ให้สำเร็จ เรารู้สึกว่ามันเกินจริงมาก พยายามฝึกซ้อมเเละวางแผน
"มันเหมือนความฝัน พูดไม่ออก มันเหมือนเป็นความฝันอยู่ ขอบคุณคนไทยทุกคนถ้าไม่มีทุกคนก็คงไม่มาถึง
ตูนบอกว่า ในช่วง8 กิโลเมตรสุดท้ายอยากจะวิ่งเฉลิมฉลองเพื่อตัวเอง อาจจะไม่ได้เข้าไปทักทายใคร กราบขออภัยด้วย
ตูนบอกว่าอยากให้ทุกคนออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังบอกว่าการให้เห็นเด็กหยิบกระปุกออมสินมาให้เรา ไม่เคยคิดตรงนี้มาก่อน รู้สึกว่าเป็นสิ่งใหม่ที่ได้เจอ เหมือนได้เป็นคนปลูกเมล็ดพันธุ์ให้คนรุ่นใหม่ เเทนที่เขาอยากเอาไปซื้ออย่างอื่นเเต่เขากลับเอามาให้เราไปช่วยเหลือโรงพยาบาล
"หลังจากนี้ผมคงกลับไปทำเพลงอัลบัมใหม่อย่างเต็มที่ ในเรื่องของโรงพยาบาลถ้ายังมีแรงเเละมีทุกคนคอยสนับสนุนอยู่ ก็อยากจะทำ ถ้าทำเเล้วเกิดประโยชน์ มีอีกเรื่องที่อยากขอบคุณคือทีมงาน ภาพที่ทุกคนเห็นไลฟ์ในเฟซบุ๊กทุกวัน มีทีมงานอีกกว่า 100 ชีวิตที่ตื่นก่อนนอนที่หลัง"
คนบันเทิงเเห่งปีทิ้งท้ายว่า "ตลอดเส้นทางมีแต่คนบอกว่าผมเป็นคนดี เป็นฮีโร่ แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นคนดี เป็นฮีโร่ ฮีโร่ตัวจริงอยู่ที่โรงพยาบาล คอยรักษาคนในครอบครัวที่เรารักอยู่"