กรมควบคุมโรค เตือนเล่นน้ำทะเล สวมเสื้อผ้ามิดชิดป้องกันการสัมผัสพิษจากแมงกะพรุน
นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีแจ้งพบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ที่บริเวณหาดใน จ.ภูเก็ต นั้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูมรสุมและมักจะพบแมงกะพรุนถูกคลื่นซัดเข้ามาชายหาดจำนวนมากทั้งมีพิษและไม่มีพิษ อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังชนิดมีพิษโดยเฉพาะแมงกะพรุนกล่อง ซึ่งในประเทศไทย เคยพบผู้เสียชีวิตจากแมงกะพรุนกล่องแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 - 2558 มีรายงานผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากแมงกะพรุนพิษมากกว่า 900 ราย พบอาการหนัก ถึงหมดสติ 18 ราย ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 8 ราย
นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อไปว่า แมงกะพรุนกล่อง จะมีลักษณะโปร่งใส โดยเฉพาะบริเวณสายหนวด รูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีหนวดบาง 12-15 เส้นในแต่ละมุม มีทั้งหมด 4 มุม หนวดอาจยาวถึง 3 เมตร ซึ่งถุงพิษจะอยู่ที่สายหนวด หนึ่งตัวอาจมีถุงพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนกล่อง จัดเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีฤทธิ์ 3 ด้าน คือ 1.ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย 2.มีอาการปวดรุนแรง และ 3.หากได้รับพิษในปริมาณมาก และพิษเข้าสู่กระแสเลือด จะแล่นเข้าสู่หัวใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้น และระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิตได้ใน 2-10 นาที
ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นที่ถูกวิธีคือ ราดด้วยน้ำส้มสายชูจะระงับการยิงพิษจากถุงพิษที่ยังไม่ได้ยิงในระยะแรก จะลดความรุนแรงของการได้รับพิษ โดยราดด้วยน้ำส้มสายชูอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที ก็จะสามารถนำสายหนวดออกจากร่างกายได้โดยปลอดภัยแต่น้ำส้มสายชูไม่ได้ช่วยลดความปวด จึงต้องให้ยาลดปวดคู่กับการให้น้ำส้มสายชู
สำหรับการป้องกันแมงกะพรุนพิษ ขอให้ประชาชนสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่น แขนยาว ขายาวแนบตัว ขณะลงเล่นน้ำทะเล ไม่ควรเล่นน้ำนอกตาข่ายในทะเล หากพบผู้สัมผัสแมงกะพรุนพิษ ให้รีบนำขึ้นจากน้ำ และทำการช่วยเหลือโดยทันที หรือโทรศัพท์สายด่วน 1669 เพื่อส่งหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดเข้ามาช่วยเหลือ