จากกรณีนายบุญธรรม เพ็ชรนารถ ประธานกรรมการบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง เพ็ชรเมโทร จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ. 99/2561 ลงวันที่ 8 มี.ค.61 เดินทางมาที่ตึกแกรมมี่ เพื่อจับกุมตัว นายณพสิน แสงสุวรรณ อายุ 36 ปี หรือ หนุ่ม กะลา ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด่วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณะชน ซึ่งงานดนตรีกรรมหรือโสตทัศนวัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ หนุ่ม กะลา ได้นำเพลง “ยาม” ไปร้องที่ร้าน คลับ อินซอมเนีย ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ต.หนองปรือ อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 พ.ย.60 รวมถึงนำไปร้องในคอนเสิร์ตอีกหลายๆ ครั้ง หลายสถาน โดยไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 12 มี.ค. หนุ่ม กะลา พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดย ร.ต.ท.(หญิง) ชนิกานต์ เผื่อนพินิจ รอง สว.(สอบสวน) ได้แจ้งข้อกล่าวหาการกระทำความผิดตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ (พ.ศ.2537) จำนวน 4 ข้อหา ประกอบด้วย มาตรา 27 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติโดยไม่ได้รับอนุญาติ ตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำการดังต่อไปนี้ 1.ทำซ้ำหรือดัดแปลง 2.เผยแพร่ต่อสาธารณะชน, มาตรา 28 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศน์วัสดุภาพยนต์หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์ตาม พระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ได้รับอนุญาติ ตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำการดังต่อไปนี้ 1.ทำซ้ำหรือดัดแปลง 2.เผยแพร่ต่อสาธารณะชน, มาตรา 29 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานแพร่เสียงแพร่ภาพอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ได้รับอนุญาติ ตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำการดังต่อไปนี้ 1.จัดให้ประชาชนฟัง หรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพโดยเรียกเก็บเงิน หรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า และมาตรา 69 ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิของนักแสดงตามมาตรา 27,28 และ29 และกระทำเพื่อการค้าผู้กระทำต้องระวางโทดจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน หนุ่ม กะลา กล่าวว่า เคยได้รับหมายเรียกมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งที่ 2 ไม่ได้รับ อีกทั้งยังอยู่ในช่วงของการพูดคุยกับทนายเรื่องของคดีจึงทำให้ล่าช้าไม่มารับทราบข้อกล่าวหากระทั่งถูกออกหมายจับ อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาก็พยายามเจรจากับผู้เสียหายมาโดยตลอดแต่ยังตกลงกันไม่ได้ และครั้งนี้ก็พร้อมหาข้อยุติหากได้พบและเจรจาร่วมกัน โดยขณะที่วันนี้ก็เตรียมเงินสดมาด้วย 1 แสนบาทเพื่อใช้ในประกันตัว
ขณะที่ พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ ซึ่งหากมีการเจรจาและตกลงกันได้ทางผู้เสียหายก็สามารถถอนคำร้องเพื่อให้เรื่องยุติได้ แต่เมื่อยังไม่มีการเจรจาทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการไปตามขบวนการ ซึ่งจะได้นำตัวไปสอบปากคำและสุดท้ายหากไม่มีการเจรจาตกลงยอมความกัน ก็คงจะให้ประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาทตามขั้นตอนต่อไป