แม่ประนอม ลั่น ห้ามใช้ชื่อและรูปบนขวดน้ำพริกอีก

           แม่ประนอม ลั่น พังเป็นพัง ไม่ยอมให้ใช้รูปและชื่อบนขวดน้ำพริกอีกต่อไป หลังคดีเรียกทรัพย์สินคืนจากลูกสาวคนโต เจรจาไม่สำเร็จ 

          วันที่ 13 กรกฎาคม 2559 มีรายงานว่า ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้นัดไต่สวนคำร้องคดี นางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งกิจการน้ำพริกเผา "แม่ประนอม" ขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีแพ่ง ที่นางประนอม และ น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนที่ 2 ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต และนายสุชาติ ภาษาประเทศ สามีของนางศิริพร เรื่องเพิกถอนนิติกรรม ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยขอให้เพิกถอนการโอนที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานบริษัท พิบูลย์ชัย น้ำพริกเผาแม่ประนอม จำกัด  ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของนางประนอมและนายศิริชัย สามี โดยให้จำเลยโอนหุ้นบริษัทดังกล่าว 38,550 หุ้น คืนให้โจทก์และกองมรดกของนายศิริชัย พร้อมค่าเสียหายรวม 561,950,000 บาท ดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี นับจากวันถัดฟ้องคดี

          โดยฝ่ายจำเลยคือนางศิริพรและสามี ได้เดินทางมาที่ศาล ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี แต่ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน จากนั้น นางประนอม และ น.ส.ศิริวัลย์ ฝ่ายโจทก์ ได้เดินทางตามมา ซึ่งนางประนอม กล่าวว่า วันนี้ตนตั้งใจมาขอความเป็นธรรมจากศาล เรื่องเรียกทรัพย์สินของตัวเองกลับคืน และมั่นใจว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมในการไต่สวนคดี

          หลัง การไกล่เกลี่ยกว่า 3 ชั่วโมง นายประนอม ได้เดินลงมาจากศาลพร้อม น.ส.ศิริวัลย์ ก่อนเผยว่า ช่วงเช้าศาลได้เจรจาไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย แต่ปรากฏว่านางศิริพรกับนายสุชาติ ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้ ตนจึงจะไม่ถอนฟ้องคดี ขณะที่ นายพิสิทธ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของ "แม่ประนอม" เผยว่า  เบื้องต้นทราบว่า ที่นางประนอมกับลูกสาวคนโตยังไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ได้ เพราะติดขัดเรื่องทรัพย์สินบางตัว จึงเจรจากันไม่สำเร็จ ตอนนี้ถือว่าการไกล่เกลี่ยจบไปแล้ว และในช่วงบ่ายวันนี้ ศาลได้นัดไต่สวนพยานโจทก์ ซึ่งตนเตรียมพยานไว้ 2 ปาก คือ นางประนอมและคนขับรถ ส่วนฝ่ายคู่กรณีทราบว่าเตรียมพยานไว้ 9 ปาก คาดว่าจะใช้เวลาถึงช่วงเย็น และจะเข้าสู่กระบวนการของศาลขั้นต่อไป

          ต่อมาในเวลา 13.00 น. ศาลได้เริ่มกระบวนการพิจารณาไต่สวนคำร้อง โดยมีนางประนอมเป็นผู้เบิกความเป็นคนแรก โดยใช้เวลาไต่สวนนานกว่า 4 ชั่วโมงครึ่ง กระทั่งเวลา 17.30น. ศาลจึงพักการไต่สวน และนัดไต่สวนคำร้องใหม่อีกครั้งในวันที่ 11 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00-16.00 น. 

          ทั้งนี้ นางประนอม กล่าวภายหลังการไต่สวนว่า เมื่อศาลท่านเมตตาไกล่เกลี่ยให้อีกครั้ง แต่ลูกสาวคนโตยังไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้ตามที่ตนขอคืน ได้แก่ 

          1. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 1 แปลง

          2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในหมู่บ้านเศรษฐกิจ  เขตภาษีเจริญ กทม. จำนวน 34 แปลง  

          3. หุ้นบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ที่เป็นของนางประนอม จำนวน 18,200 หุ้น 

          4. เงินปันผลของบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอมจำกัด  เดือนละ 1 ล้านบาท  

          5. เงินสด 300 ล้านบาท แลกกับกรรมสิทธิ์หุ้นในบริษัทที่เป็นของนายศิริชัย จำนวน 20,000 หุ้น และผลกำไรจากผลประกอบการบริษัทตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน 

          6. ที่ดินกองมรดก ที่อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จำนวน 9 แปลง

          โดยเมื่ออีกฝ่ายอ้างว่าต้องเก็บไว้เลี้ยงหลายครอบครัว แต่ไม่คิดเลี้ยงแม่ เป็นลูกอกตัญญูแบบนี้ ตนก็จะสู้คดีจนถึงที่สุด และจะไม่ยอมให้ลูกสาวเอาชื่อ "แม่ประนอม" และรูปของตนไปขายเป็นตราสินค้าต่อไปอีก ให้ไปสร้างชื่อและตราใหม่ขายเอาเอง ถึงตรงนี้เมื่อต้องพังก็ต้องพัง 

          ทางด้านทนายความของแม่ประนอม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีที่นางประนอม ฟ้องนางศิริพร บุตรสาวคนโต และนายสุชาติ เรื่องโอนหุ้นโดยมิชอบด้วย

ที่มา : Kapook.com