กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่ง เขากำลังเดินทางกลับบ้าน ทุกครั้งเขาจะเดินผ่านซอยเล็กๆที่มีไฟส่องสลัวเพียง 1 ดวงและในทุกๆวันเขาจะมองเห็นเจ้าแมวน้อยสีขาวตัวหนึ่งนอนเลียขนอยู่ใต้เสาไฟต้นนั้นเสมอ เขาแอบมองมันอย่างเงียบๆด้วยความสนใจมานาน แต่ก็เดินผ่านมาทุกครั้งไป
จนมีอยู่วันนึงที่การเดินทางกลับบ้านผมเขาไม่เหมือนครั้งไหนๆก่อนหน้า เขารวบรวมความกล้าตัดสินใจเดินเข้าไปหาแมวสีขาวตัวนั้น เจ้าแมวน้อยตกใจรีบกระโดดหนีไปอยู่หลังเสาไฟ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังแอบชะโงกออกมามองชายหนุ่มด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชายหนุ่มยื่นมือของเขาออกไป มานี่สิเจ้าเหมียว เขาเรียกร้องมันด้วยรอยยิ้ม เจ้าแมวสีขาวจ้องมองที่มืงสลับกับใบหน้าของเขา แม้ชายหนุ่มจะดูท่าทางเป็นคนดีแต่เธอก็กลัวและไม่ไว้ใจเขาเอาซะเลย ไม่มีมนุษย์คนไหนเคยเข้ามาผูกมิตรกับเธอมาก่อน ชายหนุ่มเห็นเจ้าแมวดูกล้าๆกลัวๆ แต่เขาก็ยังไม่ลดละความพยายาม
ทุกวันหลังจากนั้นทุกครั้งที่เดินผ่านเสาไฟต้นเดิมเขาจะทักทายเจ้าแมวเหมียว บางวันก็เอาอาหารแมวมาให้ บางวันก็มานั่งเล่นเป็นเพื่อน ทุกอย่างอยู่ที่เสาไฟต้นนั้นต้นเดียว ที่สว่างไสวอยู่กลางซอยแคบๆ นานอยู่เป็นแรมเดือน เจ้าแมวน้อยที่เกิดมาไม่เคยมีเจ้าของ ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนใส่ใจเธอแบบนี้ ความเกรงกลัวที่มีเริ่มหายไป จากที่เคยเอาแต่หลบหลังเสา เธอยอมเดินออกมา เธอยอมให้เขาลูปหัว ยอมให้เขาอุ้ม เจ้าแมวน้อยขี้กลัวกลายมาเป็นแมวที่เชื่องของชายหนุ่มส่วนชายหนุ่มก็กลายเป็นทาสของเจ้าแมวน้อยอย่างถอนตัวไม่ขึ้นไปซะแล้ว
สุดท้ายก็ถึงวันที่เขาตัดสินใจได้ว่าอยากจะรับเลี้ยงเจ้าแมวน้อยอย่างจริงจังสักที ซึ่งเจ้าเหมียวน้อยก็ยินดียิ่งกว่าอะไร เขาอุ้มเธอกลับบ้านดีใจที่ได้เจ้าเหมียวน้อยมาให้ดูแล ส่วนเจ้าแมวสีขาวก็ดีใจที่ได้มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนสักที เปิดสักทีเรื่องมันควรจะจบอย่างมีความสุขพี่ก็มีเพียงแต่อะไรล่ะจะเกิดขึ้นเมื่อชายหนูไม่เคยเรียกยากจริงๆมาก่อนต้องไปอยู่กับเจ้าแมวน้อย ที่ก็ไม่เคยมีเจ้าของจริงๆมาก่อนเหมือนกัน
ก็คงเหมือนลิ้นกับฟัน เมื่อวันเวลาผ่านไป เขาเริ่มรู้สึกว่าบางครั้งเจ้าแมวน้อยก็น่ารำคาญเกินไปไม่ค่อยมาเกาะแกะ คลอเคลียอยู่ทั้งวี่ทั้งวัน จนเขาทำอะไรๆไม่สะดวกอย่างที่เคย ฝ่ายเจ้าแมวน้อยก็เริ่มรู้สึกว่า บางทีชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจเธอเท่าที่ควร อาหารของเธอไม่ได้ถูกเติมตามเวลา บางวันเขาก็ออกไปข้างนอกจนถึงดึก แล้วทิ้งเธอไว้ และไม่ได้มาเล่นกับเธอบ่อยเท่าที่เธอต้องการ
ทุกวินาทีดูช่างอบอุ่นและมีความสุขตอนที่เขากับเจ้าแมวใช้เวลาสั้นๆอยู่ด้วยกัน ใต้เสาไฟต้นนั้นแต่มันกลับต่างออกไปเมื่อเขาเก็บเธอมาเลี้ยง และทั้งสองต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ความอึดอัดที่สื่อสารกันไปไม่ถึง กลายมาเป็นปัญหาเล็กๆที่ดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่มีใครทำอะไร
และวันที่ทุกอย่างปะทุออกก็มาถึง วันหนึ่งขณะที่ใช่อยู่กำลังหัวเสียอยู่กับงานที่ไม่เป็นดั่งใจ อยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ เจ้าแมวสีขาวน้อยใจที่เขามัวแต่ให้ความสนใจกับงานมากกว่า เธอจะปีนขึ้นมาบนโต๊ะเอาอุ้งเท้าเขี่ยที่แขนของเขา พร้อมกับเอาตัวเข้ามาคลอเคลีย ส่งเสียงเรียกให้เขาสนใจ แต่หารู้ไม่ว่า มีแต่จะทำให้เขายิ่งหงุดหงิด เขาเหวี่ยงเสียงดังใส่เจ้าแมว พร้อมสะบัดแขนหนีอย่างเร็ว นั้นทำให้เจ้าแมวเหมียวตกใจ และข่วนเขาเข้าเต็มแรงด้วยกงเล็บที่คมกริบที่ซ่อนอยู่ใต้อุ้งเท้านุ่มๆ มาตลอด ชายหนุ่มร้อง พร้อมกับมองดูที่แขนที่มีเลือดซึมมาเป็นขีดยาว ส่วนเจ้าแมวผู้เสียขวัญก็หนีไปหลบอยู่หลังตู้
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม เจ้าแมวน้อยดูจะไม่เชื่องอีกต่อไปมันระแวงและพยายามจะข่วนเขาอีกหลายครั้งเมื่อเขาเข้าใกล้ ส่วนชายหนูเองไม่ยอมฝังใจกับรอยข่วนที่เจ้าแมวสร้างไว้และเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ใช่แมวน้อยๆใสๆที่น่ารักอีกต่อไปแล้ว จริงอยู่ที่เขายังคงรักแมวและอยากเลี้ยงแมวสักตัวไว้ที่ห้อง จริงอยู่ที่เขาก็รู้ว่า ตัวเองมีมีส่วนผิดกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาและเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเธอมากพอ เพียงแต่เขาไม่คิดว่าเขาอยากจะเลี้ยงแต่แมวสีขาวตัวนี้อีกแล้ว เทียบกับเจ้าแมวที่ทั้งเคยสร้างรอยแผลและเริ่มจะไม่เชื่องตัวนี้ มันอาจจะง่ายกว่าถ้าเขาหาแมวตัวใหม่ที่ไม่เคยมีเรื่องไม่ลงรอยกันมันเลี้ยง จะได้ลองเริ่มต้นใหม่อีกสักที
เขาตัดสินใจเอาแมวสีขาวตัวนั้นใส่กล่องไปทิ้งไว้ที่เสาไฟฟ้าต้นเดิม คิดว่าสักวันหากเขาพบแมวตัวใหม่ที่น่าจะเข้ากันได้ดีกว่า เขาค่อยขอเป็นสัตว์เลี้ยงจริงจังอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาจะดูแลให้ดีและไม่เผลอทำอะไรผิดพลาด อย่างที่เคยทำกับเจ้าแมวสีขาวตัวนั้นอีกแล้ว
เจ้าแมวสีขาวมองดูชายหนุ่มเดินจากไป เธอรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรผิด เธอข่วนเขา เธอเรียกร้องมากเกินไป จนถึงวันนั้นมันก็สายไปแล้ว เธอพยายามเดินตามและส่งเสียงเรียกให้เขาหันกลับมา แต่นั้นก็ไม่เกิดขึ้น
หลายวันผ่านไปชายหนุ่มเลือกที่จะเปลี่ยนทางเดินกลับบ้าน เพราะไม่อยากพบเจอแมวสีขาวตัวนั้นอีก มีบางครั้งที่เขาคิดถึงมัน และบางครั้งที่เขาคิดกับตัวเองว่า สิ่งที่เขาทำลงไปมันดีที่สุดแล้วใช่ไหม หรือมันจะดีกว่า หากเขายังเก็บแมวน้อยตัวนั้นไว้ พยายามดูแลให้เธอกลับมาเชื่องเหมือนเดิม สอนเธอว่าไม่ควรทำอะไรและเรียนรู้จักเธอว่าเธอต้องการอะไร ถ้าค่อยๆปรับเข้าหากันแบบนั้น แม้เขายังอาจจะต้องถูกข่วนอยู่บ้างในบางวัน และเธอก็อาจจะต้องถูกดุใส่บ้างในบางที แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังจะได้อยู่ด้วยกัน
ชายหนุ่มลองเดินกลับไปที่ซอยเล็กๆซอยเดิมที่ๆเขาเคยพบกับเจ้าแมวสีขาว ระหว่างทางก็ครุ่นคิดว่าความผูกพันและความรักที่เขามีให้เจ้าแมวน้อยมาตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น มันควรค่าแก่การที่เขาจะดูแลเธอต่อไปไหม แต่พอมาถึงที่เสาต้นนั่น เจ้าแมวสีขาวก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว
ถ้าลองเปรียบแมวตัวน้อย เป็นหญิงสาวล่ะ? ความรักก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรอ ที่คนสองคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต่างหลงไหลกันเพราะแรงดึงดูดหรือความแต่งบางอย่าง แล้วเวลาได้อยู่ด้วยกันจริงๆมันจะเป็นอย่างที่เราคิดจริงๆมั้ย.....