กฎ 18 ข้อที่คนรวยทำแต่คนจนกลับไม่สนใจ

คุณตื่นนอนตอนตี 5 ทุกวัน โดดประชุมแล้วคุยกับคนแปลกหน้าแทน คุณอาบน้ำด้วยน้ำแข็งแล้วเดินไปทำงานแม้ว่าคุณจะมีรถ เพื่อนของคุณบอกว่าคุณแปลก แต่เปล่าเลยคุณแค่รู้วิธีใช้ชีวิตเหมือนคนโดยต่างหาก

เจฟฟ์ เบโซส์ คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกดำเนินธุรกิจของเขาตามกฎพิซซ่า 2 ถาด ทุกตารางการประชุมของอเมซอน ไม่ควรมีคนมากเกินกว่าที่จะเลี้ยงได้ด้วยพิซซ่า 2 ถาด ก็มีเหตุผลถ้าคุณลองคิดดูการประชุมที่มีคนจำนวนมากเกินไปไม่มีประสิทธิผลเท่าไหร่ เพราะไอเดียดีๆมักหายเป็นคนกลุ่มใหญ่

มาร์ค คิวบาน ทนการประชุมไม่ได้ เขาคิดว่ามันเสียเวลาเพราะคนส่วนใหญ่ คนที่นำเสนอในการประชุมมักพูดถึงทุกเรื่องยกเว้นเรื่องธุรกิจ แทนที่จะประชุมและการประชุมทางโทรศัพท์ เขาชอบอีเมลมากกว่ามันเร็วมากกว่า และคุณเปิดดูอีเมลก่อนหน้านี้ได้เสมอหากคุณลืมบางเรื่อง

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีวิธีการสัมภาษณ์พนักงานที่ไม่เหมือนใคร ผู้ก่อตั้ง Facebook เจอผู้สมัครในออฟฟิศแล้วพาผู้เข้าไปเดินเล่นขนาดคุยกันเรื่องเทคโนโลยี ดูเหมือนว่าจะแปลกไปหน่อยแต่ก็น่าจะดีกว่าจะได้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์มากกว่าอยู่ในออฟฟิศ และถามคำถามว่า คุณมองเห็นตัวเองทำอะไรในอีก 5 ปีข้างหน้า

มหาเศรษฐีมอบหมายงานให้คนอื่นเพื่อจัดสรรเวลาและทรัพยากรของพวกเขา แต่ แลร์รี่ เพจ ไม่เห็นด้วย ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เชื่อว่าถ้าคนคนนั้นเก่งในเรื่องอะไร พวกเขาก็ไม่ควรส่งต่องานนี้ให้คนอื่นหรือบางทีคุณอาจจำเป็นต้องฝึกฝนเพิ่มเติมในการทำงานประเภทนี้ งั้นก็ทำเองเลย เพจ มั่นใจว่ามันจะช่วยผู้คนพัฒนาทักษะของพวกเขา

การเป็นคนรวยทำให้คุณกินอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกได้ แต่ไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนที่ทำอย่างนั้น พวกเขาไม่แต่จำกัดการบริโภคอาหารของพวกเขาเอง 

สตีฟ จ๊อบส์ กินผลไม้และแครอทเป็นเวลานาน เพราะเขามั่นใจว่ามันดีต่อสุขภาพของเขา 

แจ็ค ดอร์ซี่ย์ CEO ของแอป Twitter และ Square กินอาหาร 7 มื้อต่อสัปดาห์ ใช่แค่วันละมื้อ เขายังอาบน้ำด้วยน้ำแข็งและเดินไปทำงานด้วย เขาทำทั้งหมดนี้เพื่อพัฒนาการทำงานของสมองและสุขภาพของเขา การจำกัดอาหารช่วยเขามีสมาธิและการทำงานได้ดีขึ้น และการเดินทุกวันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ทำให้เขามีรูปร่างดี นอกจากนี้เขายังทำสมาธิ 2 ชั่วโมงทุกวันแล้วออกกําลังกาย 7 นาทีแทนที่จะไปยิมอีกด้วย

คนที่ประสบความสำเร็จจริงๆจะไม่พยายามทำตัวให้ดูรวย พวกเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงอย่างที่หลายคนใส่ ที่จริงแล้วหากมีคนพยายามทำตัวให้ดูแตกต่างเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่น พวกเขาก็อาจไม่ได้รวยขนาดตัวอย่างเช่น 
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ง่ายๆทุกวัน หากคุณเจอเขาบนถนนคุณจะไม่มีทางคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก การใส่เสื้อผ้าง่ายๆแบบนี้ช่วยให้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จดจ่อกับสิ่งที่สำคัญและไม่เสียเวลาอันมีค่าในการเลือกว่าจะใส่อะไร

สตีฟ จ๊อบส์ ก็ชอบใส่เสื้อผ้าเรียบง่ายเช่นกัน เราทุกคนจำเสื้อคอเต่าสีดำและกางเกงยีนส์เก่าๆของเขาได้ เขาไม่อยากเสียเวลาเลือกเสื้อผ้า อีกอย่างคนรวยและประสบความสำเร็จ ค่อนข้างมั่นใจ เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม เพื่ออวดหรือพิสูจน์อะไรกับคนอื่น

อิงวาร์ คัมพรา ผู้ก่อตั้งใน ikeaใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง แม้เขาจะเป็นมหาเศรษฐี เขาก็มักจะนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดและพักในโรงแรมราคาประหยัด Class ขับรถ volvo ปี 1993 มาหลายปีแล้วด้วย เขาคิดว่าการใช้จ่ายเงินเป็นนิสัยที่ไม่ดี 

เราทุกคนเคยได้ยินคำแนะนำที่ให้วางแผนวันของคุณและรายการสิ่งที่ต้องทำ

อีลอน มัสก์ วางแผนตารางงานของเขาทุก 5 นาที แน่นอนว่ามันช่วยเขาติดตามงานสำคัญได้แต่มันก็มีประสิทธิภาพมากในด้านจิตใจด้วย เมื่อคุณเขียนเป้าหมายทั้งหมดของคุณสำหรับทั้งวัน สัปดาห์ เดือน หรือปีก็จะอาจเครียดและคลุมเครือเกินไป ตารางงานแบบ 5 นาทีสั้นๆนั้นดูสมจริงและเข้าใจได้ง่าย

เมื่อพูดถึงโต๊ะทำงาน พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแบบ มาร์ธา สจ๊วต ก็เป็นแบบ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ สำหรับ มาร์ธา สจ๊วต ออกกฎสำหรับออฟฟิศของเธอว่า โต๊ะของพนักงานทุกคนจะต้องไม่มีที่ติในตอนท้ายของแต่ละวันและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้วางของใช้ส่วนตัวเช่นแก้วกาแฟ หรือ ภาพถ่าย แต่หนึ่งในคำพูดอันโด่งดังของ ไอสไตน์ คือถ้าโต๊ะรกๆเป็นสัญลักษณ์ของจิตใจที่ยุ่งเหยิงแล้วโต๊ะว่างๆล่ะเป็นสัญลักษณ์ของอะไร 

คนเราควรมีงานอดิเรกและสำหรับ เดวิด ร๊อกเกอะเฟลเลอร์ นายธนาคารที่มีชื่อเสียง มันคือเขาได้รวบรวม Collection เต่าทองกว่า 1.5 แสนตัว ตลอดชีวิตของเขา เขาจะพกขวดไว้เสมอเพื่อใส่แมลงแปลกๆที่เขาเจอขณะเดินทาง เขาได้พบกับผู้คนที่น่าสนใจมากมายและรู้สึกดีขึ้นอยู่กับชีวิตด้วยงานอดิเรกที่เขาโปรดปราน

หากคนแปลกหน้าบนถนนยิ้มให้คุณและเริ่มพูดคุยกับคุณ คุณอาจคิดว่ามันแปลกหรือน่ากลัวแต่นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เฮรี่ ไดร์เบอร์ ยิ้มตอบและคุยกับคนแปลกหน้าทุกวัน มันช่วยให้เธอคิดบวกและมีพลัง ไดร์เบอร์ บอกว่า เธอมักจะมีวันที่เครียดและมันง่ายมากที่จะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง แต่การคุยกับคนขับอูเบอร์หรือคนที่อยู่ในลิฟท์ ช่วยเธอมองเห็นปัญหาของเธอจากมุมมองใหม่ๆ

โจนาธาน ฟารนเซน นักเขียนยอดนิยมของนิวยอร์กไทม์ ได้คิดค้นวิธีในการจดจ่อกับการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเข้าทำงานในสตูดิโอเก็บเสียงดึงปิดม่านหน้าต่าง ใส่ที่อุดหูปิดไฟแล้วใส่ผ้าปิดตา เมื่อเขาปิดการรบกวนทางสายตาและการได้ยิน ความคิดทั้งหมดจะเริ่มไหลเข้ามา และเขาก็เริ่มเขียนงานได้

นักธุรกิจ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งมีทรัพย์สิน 74,000 ล้านและครองอันดับ 4 ใน List ของ Forbes ใช้เวลาประมาณ 80% อ่านหนังสือทุกวัน เขากล่าวว่าการอ่านช่วยเขาคิดได้ชัดเจน และมีสมาธิจดจ่อ เขาได้ทำการตัดสินใจการเงินที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายเพราะหนังสือที่เขาอ่าน

ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีและผู้ก่อตั้งกลุ่ม Virgin เริ่มวันใหม่ตอน 05:00 น. เขาออกกำลังกาย ทำสมาธิและทำให้ร่างกายและสมองเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนเชื่อว่า สิ่งที่คุณทำไปตอนเช้าจะส่งผลถึงทั้งวันของคุณ และกีฬาโปรดของ ริชาร์ด แบรนสัน คือการเล่นว่าว เขาชอบมันมาก เพราะความรู้สึกถึงอิสรภาพ ความร่าเริงและความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

แลร์รี่ เอลลิสัน ผู้ก่อตั้ง Oracle ใช้เวลาว่างของเขาในการกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีน เขาขี่จักรยานเสือภูเขา โต้คลื่นและชื่นชอบกีฬาผาดโผน มหาเศรษฐีอย่างเขาได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจมากมายในโลก เพราะงั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขาประหลาดใจ นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการรู้สึกถึงสิ่งใหม่

โยชิโระ นากามัตสึ นักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น ผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์กว่า 3,000 ชิ้น กล่าวว่า ไอเดียที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดมาจากความคิดของเขาในช่วงที่เกิดความเครียดอย่างมาก เพราะงั้นเขาเลขคว้าสมุดบันทึกและปากกากันน้ำ แน่นอนว่าเป็นผลงานการประดิษฐ์ของเขาเอง ดำดิ่งลงไปที่ก้นสระว่ายน้ำของเขา นั่งอยู่อย่างนั้น และรอให้เกิดความคิดใหม่เข้าหัว เขาจะไม่ขึ้นมาจนกว่าจะนึกถึงสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมได้ นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าไอเดียที่เจ๋งที่สุดจะเกิดขึ้นในห้องสีทอง ที่ไม่มีตะปูหรือวัสดุที่ทำจากเหล็ก เพราะฉะนั้นเขาจึงเปลี่ยนห้องน้ำของเขาให้กลายเป็นห้องความคิดที่สมบูรณ์แบบ